แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ก. ท.ท.ช. ค. นทช.
ข. กทช. ง. ทช.
ตอบ ก. ท.ท.ช.
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ก.นายกรัฐมนตรี
มาตรา ๕ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “ท.ท.ช.” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกินเก้าคน เป็นกรรมการ
ให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ก. จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ข. ดำเนินการเพื่อให้มีการกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
ค. กำหนดและจัดให้มีการรับรองมาตรฐานเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวหรืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๐ ให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดทำและเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
(๒) จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
(๓) เสนอนโยบายและแนวทางการจัดทำความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรี
(๔) ดำเนินการเพื่อให้มีการกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
(๕) พิจารณาให้ความเห็นชอบและกำกับดูแลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
(๖) กำหนดและจัดให้มีการรับรองมาตรฐานเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวหรืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๗) อำนวยการ ติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ และนโยบายหรือมาตรการเพื่อการส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว
(๘) กำกับการจัดการและบริหารกองทุน
(๙) ปฏิบัติการอื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ หรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ก. เป็นศูนย์กลางประสานงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามนโยบายและแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติในทุกภาคส่วน
ข. ศึกษา วิเคราะห์ และพิจารณากลั่นกรองแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวเสนอต่อคณะกรรมการ
ค. จัดหรือสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว
ง. จัดทำและเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ตอบ ง. จัดทำและเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ก. 30 คน ค. ไม่เกิน 30 คน
ข. 25 คน ง. 20 คน
ตอบ ค.ไม่เกิน 30 คน
ก. คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว
ข. คณะกรรมการ ท.ท.ช.
ค. สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ง. กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
ตอบ ก. คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว
ก. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนาการท่องเที่ยว
ข. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนการพัฒนาทักษะด้านการบริหาร การตลาด หรือการอนุรักษ์ทรัพยากรท่องเที่ยวในชุมชน
ค. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้
ข. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้มอบให้
ค. ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๓ กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้
(๑) เงินและทรัพย์สินที่โอนมาจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยตามมาตรา ๓๑
(๒) เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้
(๓) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้มอบให้
(๔) ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
(๕) เงินและทรัพย์สินอื่นที่ตกเป็นของกองทุน
เงินและทรัพย์สินตามวรรคหนึ่งให้ตกเป็นของสำนักงานเพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุน โดยไม่ต้องนำส่งคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดิน
ก. เป็นเงินอุดหนุนหรือเงินให้กู้ยืมแก่หน่วยงานของรัฐ
ข. เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือหรือสนับสนุนการท่องเที่ยว
ค. เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ